Kledthai.com

ตะกร้า 0

พลิกชะตา

ISBN: 9786167832234

แปลจากหนังสือ : Synchronicity

ผู้แต่ง : Joseph Jaworski

ผู้แปล : วิภาดา กิตติโกวิท

สำนักพิมพ์ : OMG BOOKS

ปีที่พิมพ์ : 2560

จำนวนหน้า : 360

พร้อมส่ง
ISBN:
9786167832234
ราคาพิเศษ ฿297.00 ราคาปรกติ ฿330.00

หนังสือเล่มนี้มีพลังชีวิต และให้แรงบันดาลใจลึกซึ้ง แต่ไม่ง่ายเลยที่จะนิยาม ถึงแม้บางคนจะบอกว่ามันเกี่ยวกับเรื่อง ‘การนำ’ (Ieadership) ก็ตาม แต่นั่นดูจะเป็นการตีกรอบเนื้อหาไว้แคบไปสักนิด

‘พลิกชะตา’ บอกเล่าถึงการแสวงหาภายในของผู้เขียนและวิถีทางที่เขาเข้าไปสัมพันธ์กับโลกภายนอก ซึ่งค่อยๆ ทำให้เราเห็นภาพว่า ทางสองเส้นนี้คือเส้นทางเดียวกันหรือผูกโยงเข้าด้วยกันอย่างไร มันไม่ได้แยกจากกันอย่างที่เราเข้าใจ มากกว่านั้น การแสวงหานี้ที่สุดแล้วก็เดินตามรอยการแสวงหาที่ถูกขับดันเร่งเร้าอยู่ในตัวเราทุกคนมาตลอด (The Hero’s Journey) ฉะนั้น ในเรื่องเล่าของผู้เขียนจึงมีเรื่องราวของเราแฝงอยู่อย่างแยกไม่ออกในหลายๆ ทาง

ในฐานะที่เป็นตัวกำหนดประสบการณ์ชีวิต และพลังของสิ่งที่เราทำ หนังสือเล่มนี้ให้ความสำคัญกับภาวะที่เราเป็น (being) เมื่อเปรียบกับสิ่งที่เราทำ (doing) ด้วยเพราะเราอยู่ในโลกที่ต้องทำสารพัดสิ่งเพื่อตอบสนองเงื่อนไขสารพัดอย่าง จนเราคิดว่าสิ่งสำคัญสูงสุดคือการต้อง ‘ทำสิ่งใด’ มากว่า ‘เป็นสิ่งใด’ หรือ ‘ดำรงอยู่ในสภาวะใด’ – และสูญเสียภาพกว้างของชีวิตไป

ผู้เขียนปะติปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกัน ในแบบที่ทำให้เรารู้สึกถึงภาวะที่ เรา คนอื่น โลกภายใน โลกภายนอก จิตวิญญาณ วิทยาศาสตร์ อดีต อนาคต ถูกถักทอถ่ายเทเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ถึงโลกแห่งความเป็นไปได้ที่เปิดรอรอเราอยู่ และชวนให้เราพิศวงกับกระบวนการของชีวิตอีกครั้ง

เราอาจอ่าน ‘พลิกชะตา’ ได้ในหลายระดับ ทั้งในระดับชีวิตส่วนตัวและการงานส่วนรวม แต่ไม่ว่าจะระดับใด มันจะกระตุ้นให้เราใคร่ครวญถึงวิถีทางที่ชีวิตสื่อสารและนำทางเรา ถึงธรรมชาติเนื้อแท้ของสรรพสิ่งถึงสิ่งที่ ‘ชีวิตง และ ‘อนาคต’ เรียกร้องจากเราอยู่ไม่เว้นวาย

ให้ ‘พลิกชะตา’ ได้ปลุกเราจากส่วนลึก ให้มันได้ให้ความเชื่อมั่นลึกๆ บางอย่างแก่เราในยามที่เราหวั่นไหวโรยแรง สับสนจากหาทางไปไม่เจอ ให้เราได้รู้สึกอย่างเงียบงันว่า หนทางนั้นมีอยู่ ขอเพียงเรามีศรัทธาต่อชีวิตมากพอ มีศรัทธาต่อตัวเองลึกซึ้งพอ ... และรู้วิธี ‘ฟัง’

ใช่ !! หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องของ ‘การนำ’ – แต่เป็น ‘การนำ’ ในความหมายที่ลึกล้ำยิ่ง หลายมิติยิ่ง มันคือการนำพาชีวิตตัวเองและสังคมนี้ไปยังดินแดนที่ใจเราโหยหา ผ่านแบบแผนชีวิตอันเฉพาะตัวของเราเอง

บทกล่าวนำ หนังสือ "พลิกชะตา | Synchronicity"
โดย นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์

--------------------------------
“เมื่อคนคนหนึ่งปรารถนาสิ่งใดอย่างแท้จริงหรือหวังสิ่งใดอย่างแน่วแน่ จักรวาลทั้งมวลจะร่วมกันช่วยให้เขาบรรลุความฝันนั้น”
- เปาโล โคเอโญ

(1)

ข้อความข้างต้นนี้เป็น Quotation ที่กินใจผมมากๆ
และได้เขียนข้อความนี้ติดไว้ที่โต๊ะทำงานผมเกือบยี่สิบปีมาแล้ว
เปาโล โคเอโญเขียนไว้ในหนังสือเล่มดังของเขา ที่ชื่อว่า “The Alchemist”

โดยส่วนตัวผมเชื่ออย่างจริงๆ จังๆ กับ Quotation นี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับความปรารถนาที่ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับคนอื่น

เป็นความรู้สึกที่ทำให้เราสามารถ “ยืนหยัด”
อยู่กับ “ความปรารถนา” ที่ทรงคุณค่าของชีวิตเรา

เพราะเมื่อดูดีๆ เราจะพบว่า 
“ถ้าความปรารถนานั้นเหมาะสม ชีวิตเรา “ไม่เคยไม่ได้” อะไรตามที่เราตั้งความปรารถนาไว้เลย!!”

ซึ่งก็แน่นอนว่า สิ่งที่เราตั้งใจ สิ่งที่เราอธิษฐาน อาจจะต้องใช้เวลาบ้างก็ตาม

(2)

ถึงตรงนี้ ผมอยากจะชวนพวกเรา
ลองนึกถึงชีวิตของใครสักคนหนึ่ง
คนคนนี้มี “อะไรบางอย่าง”
ที่คอยดูแลเอาใจใส่เขาอยู่ตลอดเวลา

และ “อะไรบางอย่าง” นั้น
มีพลังที่มหาศาลมหัศจรรย์
สามารถจะบันดาลให้เกิดอะไรขึ้นก็ได้บนโลกใบนี้

คนคนนี้ดำรงชีวิตอยู่
ท่ามกลาง “พลังแห่งความรัก” 
ที่ “อะไรบางอย่าง” นั้นได้ครอบคลุมถึงตัวเขาอยู่ตลอดเวลา
ชีวิตของคนคนนี้ จะเป็นอย่างไร??

ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร??
ถ้าเรารู้ว่า “สิ่งที่เราปรารถนา” จะสามารถเป็นจริงได้

ถ้าเราจะลองนึกสมมติถึง “ชีวิตที่เบาสบาย”
ชีวิตที่ไร้ความวิตกกังวล
ชีวิตแบบนั้นจะเป็นอย่างไร?

“อะไร??” ทำให้เราไม่สามารถมีชีวิตที่เบาสบายแบบนั้นได้
ทั้งๆ ที่ “มีอะไรบางอย่าง” คอยสื่อสารกับเราอยู่ตลอดเวลา

อาจจะเป็นเพราะปัญหาอย่างเดียวก็คือ
เรายังไม่เข้าใจ “ชุดภาษา” ชุดนี้
หรืออาจจะเป็นเพราะ
ตัวเรายังรวดเร็วเกินไปหรือยุ่งมากเกินไป
ตัวเราอยู่ใน “สภาวะ” ที่ไม่พร้อมกับการเข้าใจภาษาชุดนี้

ถ้าเราทำได้ ก็จะสามารถทำให้เรารู้สึกเบาสบายกับชีวิตในหลายๆ เรื่อง
ทำให้เราสามารถลดความวิตกกังวลกับชีวิตไปได้มาก
ทำให้เราไม่กลัวคำว่า “ตัดสินใจผิดพลาด” ในหลายๆ ครั้งที่ต้องเผชิญ

ทำให้เรารู้สึก “สนุก” “อยากรู้อยากเห็น” มากๆ ว่า
ในแต่ละวินาทีข้างหน้านี้ จักรวาลจะจัดสรรให้เราได้พบกับอะไรบ้าง?

(3)

ในฐานะศัลยแพทย์ ผมถูกฝึกให้เชื่อ “วิทยาศาสตร์”
ในฐานะนักเขียน ผมต้องใช้ “แรงดลใจ” อะไรๆ มากมาย
มีคำพูดแว้บๆ ปรากฏออกมาในเวลาที่ผมต้องการ

ผมอยากจะเรียนว่า
ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ “เป็นวิทยาศาสตร์”
ไม่ใช่ “ไสยศาสตร์”

ตัวเราเหมือนเครื่องรับวิทยุ
ที่ไม่ยอมจูนให้เข้ากันหรือรับสัญญาณหรือเข้าใจสัญญาณ
ที่ถูกส่งออกมาจากจักรวาลที่ยิ่งใหญ่

ในทางปฏิบัติผมพบว่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ว่า
ยิ่งเราเชื่อเรื่องนี้มากเท่าไร
ทดลองใช้ “สัญญาณ” ต่างๆ เหล่านี้มากเท่าไร
“สัญญาณ” ต่างๆ เหล่านี้ก็จะชัดเจนมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

ผมจะขออนุญาตยกตัวอย่างสั้นๆ เรื่องหนึ่ง
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผมเขียนบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง
แต่นึกชื่อดาราผู้ชายคนที่นำแสดงไม่ออก ทำให้บทความต้องรอส่งอยู่
ถ้าเป็นสมัยนี้ นึกไม่ออกก็ค้นหาในกูเกิล
ซึ่งก็อาจจะดีในแง่ว่า รวดเร็ว สะดวก แม่นยำ
แต่ในตอนนั้นโชคดีที่กูเกิลยังไม่แข็งแรง
วันต่อมา ผมเดินไปเดินมาอยู่บนบ้าน
กวาดสายตาไปยังหนังสือพิมพ์ที่ใช้รองปัสสาวะของสุนัขบนบ้าน
ก็พบคำตอบว่าดาราชายคนนั้นชื่อ "แดนเซล วอชิงตัน"
เพราะเป็นภาพโฆษณาของภาพยนตร์เรื่องอื่นของดาราคนนี้

ตัวอย่างมีมากมาย
และผมใช้บ่อยมาก เรียนรู้ทุกครั้งในชีวิตประจำวันมาตลอดสิบกว่าปีนี้
ที่อยากยกตัวอย่างนี้ เพราะชัดเจนมาก
เรื่องสัญญาณที่จักรวาลจะคอยบอกเรา
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะ “ละเอียดเพียงพอ” หรือไม่ “พร้อมพอ” หรือไม่
ที่จะรับฟัง ที่จะเรียนรู้

เรื่องที่น่ากลัวก็คือว่า
ถ้ามนุษย์ไม่พยายามใช้ “ศักยภาพ” ด้านนี้ของสมองของเรา
โดยธรรมชาติ ร่างกายของมนุษย์ก็จะ “ตัดทักษะ” ตรงนี้ของเราไปเรื่อยๆ
เหมือนกับครั้งหนึ่งที่โทรศัพท์ของเรายังไม่มี “บันทึกรายชื่อ”
เราจะสามารถจำหมายเลขโทรศัพท์ของเพื่อนๆ ได้มากมาย
แต่พอมี “บันทึกรายชื่อ”แน่นอนว่า สะดวกรวดเร็ว แม่นยำ
แต่เราจะพบว่า “หลายๆ คน จำไม่ได้แม้แต่เบอร์ของคนใกล้ตัวของเรา”

ทักษะการอ่านสัญญาณและเรียนรู้ “ภาษาจักรวาล”
มีความสำคัญกับมนุษยชาติไม่น้อย
ผมเสียดายครับ

อย่างไรก็ตาม ผมพบว่า
ส่วนที่แยกยากที่สุด ก็คือ การแยกสัญญาณที่เป็นลบ
กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเราจะต้องก้าวออกจาก Comfort Zone

ทั้งหมดก็มีแต่ “การทดลอง” และ “การเรียนรู้” กับชีวิตจริงๆ เท่านั้น
ที่จะสามารถทำให้เรา “รู้ได้ว่า”
เรื่องไหนคือ “สัญญาณจริง” เรื่องไหนคือ “สัญญาณเท็จ”

ลองอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว
เราจะได้แง่มุมที่น่าสนใจในรายละเอียดต่างๆ เหล่านี้

โดยส่วนตัว ผมมีความรู้สึกจริงๆ เลยว่า
หนังสือเล่มนี้โดยโจเซฟ จาวอร์สกีได้ทำให้คำว่า “Synchronicity”
กลายเป็นคำที่ “ศักดิ์สิทธิ์” ไปแล้ว

เพราะประโยคที่ว่า
“ไม่มีอะไรที่เป็นความบังเอิญ บนโลกใบนี้”
ที่คนปัจจุบันใช้กันเกลื่อนกลาด
มาจากความเข้าใจในหนังสือเล่มนี้นี่เอง
ที่เป็น “ตัวจุดประกาย” มาก่อนยุคของเดอะซีเคร็ท

การที่ได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มนี้
จะทำให้เราได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของคำคำนี้

ผม “ไม่อยากให้ใครสักคนเลย” “ต้องพลาดโอกาสดีๆ” แบบนี้ไปเลย

และผมอยากจะบอกว่าการได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มนี้ 
เป็นสิ่งดีที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของผมเลยทีเดียว

สิงหาคม 2016

เขียนรีวิวสินค้าของคุณเอง
คุณกำลังรีวิว:พลิกชะตา
คะแนนของคุณ